เมื่อเราหลับใหล ร่างกายของเราสร้างปรากฏการณ์ลึกลับขึ้นมาได้ นั่นคือ "ความฝัน (https://www.al-raddadi.com/guestpost/%e0%b8%97%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%9d%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%86-%e0%b8%97%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%9d%e0%b8%b1/)" สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในห้วงนิทรา เรื่องราวที่บางครั้งสมจริง บางครั้งแปลกประหลาด "เมื่อคืนฉันฝันว่าได้เป็นแฟนกับพี่คัลแลน" หรือ "ฝันว่าทะเลาะกับเพื่อน แล้วเพื่อนก็ลุกขึ้นเต้นเฉย" คำถามคือ ความฝันเหล่านี้มีความหมายอะไรกับชีวิตของเราหรือไม่?
ในทางวิทยาศาสตร์ ความฝันเกิดขึ้นเมื่อสมองยังทำงานในขณะที่ร่างกายพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วง REM sleep สมองประมวลข้อมูล ความทรงจำ และอารมณ์ต่างๆ ที่สะสมในแต่ละวัน นักจิตวิทยาอย่างฟรอยด์เชื่อว่าความฝันเป็นภาพสะท้อนจากจิตใต้สำนึก เผยความปรารถนาที่ถูกเก็บกด ความกังวล หรือความกลัวที่ซ่อนอยู่
บางคนฝันเห็นคนแปลกหน้า "เคยฝันเห็นใครไม่รู้พาไปเที่ยวสวนสนุก ในฝันมีความสุขมากเลย" ซึ่งอาจเป็นใบหน้าที่เราเคยเห็นผ่านตาแต่ไม่ได้จดจำอย่างชัดเจน บางคนเชื่อเรื่องโชคลาง "ฝันว่าโดนหมากัด แบบนี้ตีเลขอะไรได้บ้าง" ความเชื่อเหล่านี้แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม
แม้วิทยาศาสตร์จะยังไม่สามารถอธิบายความฝันได้อย่างสมบูรณ์ แต่ความฝันอาจช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น สะท้อนสิ่งที่เราคิดถึง กังวล หรือหวัง บางครั้งความฝันอาจเป็นเพียงภาพสุ่มที่ไม่มีความหมาย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณบางอย่างจากภายในจิตใจของเราเอง ไม่ว่าจะฝันดีหรือฝันร้าย ทุกความฝันล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ที่น่าค้นหาและเรียนรู้ไปด้วยกัน